ข้อบังคับ

สมาคมผู้ปกครองและครูสตรีวิทยา ๒

THE PARENT AND TEACHER ASSOCIATION OF SATRIWITTHAYA 2

ข้อบังคับ
ของ
สมาคมผู้ปกครองและครูสตรีวิทยา ๒

หมวด ๑
ความทั่วไป
ข้อ ๑ สมาคมนี้มีชื่อว่า “ สมาคมผู้ปกครองและครูสตรีวิทยา ๒”
ชื่อภาษาอังกฤษว่า “THE PARENT AND TEACHER ASSOCIATION OF SATRIWITTHAYA ๒”
ข้อ ๒ สำนักงานของสมาคมฯ ตั้งอยู่ที่โรงเรียนสตรีวิทยา ๒ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
เลขที่ ๒๙ หมู่ ๒ ซอยสุคนธสวัสดิ์ ๓ ถนนสุคนธสวัสดิ์ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ๑๐๒๓๐
ข้อ ๓ เครื่องหมายของสมาคมผู้ปกครองและครูสตรีวิทยา ๒ เป็นรูปวงกลม มีคบเพลิงอยู่ตรงกลาง
๓.๑ วงกลมชั้นนอกมีเส้นขอบสีทอง ภายในวงกลมชั้นนอกมีตัวอักษรไทย “สมาคมผู้ปกครองและครูสตรีวิทยา ๒”
๓.๒ วงกลมชั้นในพื้นสีแดง มีสามเหลี่ยมสีขาวอยู่ตรงกลาง คบเพลิงอยู่บนสามเหลี่ยมสีขาว เปลวเพลิงสีแดง ด้ามคบเพลิงสีทอง

ข้อ ๔ คำจำกัดความ
สมาคมฯ หมายถึง สมาคมผู้ปกครองและครูสตรีวิทยา ๒
คณะกรรมการบริหารฯ หมายถึง คณะกรรมการบริหารของสมาคมผู้ปกครองและครูสตรีวิทยา ๒
โรงเรียน หมายถึง โรงเรียนสตรีวิทยา ๒ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ครู-อาจารย์ นักเรียน หมายถึง ครู-อาจารย์ และนักเรียนของโรงเรียนสตรีวิทยา ๒ ในพระราชูปถัมภ์ฯ
ผู้ปกครอง บิดา มารดา หมายถึง ผู้ปกครอง บิดา มารดา ของนักเรียนโรงเรียนสตรีวิทยา ๒ ในพระราชูปถัมภ์ฯ
บุคลากรของโรงเรียน หมายถึง ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้าง ของโรงเรียนสตรีวิทยา ๒ ในพระราชูปถัมภ์ฯ
ข้อ ๕ วัตถุประสงค์ของสมาคมฯ
ข้อ ๕.๑ ส่งเสริมการศึกษา วัฒนธรรม ประเพณี สังคม ชุมชน เพื่อผลทางการศึกษา และความประพฤติ ของ
นักเรียน ตลอดจนให้ผู้ปกครองและครูมีการประสานสัมพันธ์กันด้วยดี
ข้อ ๕.๒ ส่งเสริมและสนับสนุนในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน เพื่อหารายได้ในการพัฒนาโรงเรียน เพื่อ
ส่งเสริมสวัสดิการ สวัสดิภาพและกิจการของนักเรียน ผู้ปกครองและครู
ข้อ ๕.๓ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และประสบการณ์ระหว่างผู้ปกครองและครู ในการแก้ไขปัญหาของ นักเรียน
ข้อ ๕.๔ เพื่อประสานความเข้าใจอันดีระหว่างผู้ปกครองและครู ก่อเกิดความร่วมมือในหมู่ผู้ปกครองที่จะเสริม สร้างศรัทธาที่ดีต่อโรงเรียน ชุมชน และประชาชนทั่วไป
ข้อ ๕.๕ เพื่อช่วยเหลือสังคม การกุศล และสาธารณประโยชน์ ตลอดจนช่วยเหลือสงเคราะห์แก่สมาชิกหรือชุมชน ตามความจำเป็นและเหมาะสม
ข้อ ๕.๖ การดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของสมาคมนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง หรือลัทธิศาสนาอื่นใด และจะต้อง ไม่เป็นการขัดต่อกฎหมายและศิลธรรมอันดีของประชาชน

หมวด ๒
สมาชิก
ข้อ ๖ สมาชิกของสมาคมฯ มี ๒ ประเภท คือ
๖.๑ สมาชิกสามัญ ซึ่งแบ่งออกเป็น ๒ ประเภทย่อย คือ สมาชิกสามัญตลอดชีพ และสมาชิกสามัญราย ๓ ปีสมาชิกสามัญตลอดชีพ หมายถึง สมาชิกสามัญก่อนหน้าที่จะใช้ข้อบังคับฉบับที่ ๒๕๔๒ ซึ่งได้แสดงความจำนงที่จะต้องคงสมาชิกภาพ ภายในปี ๒๕๔๕
๖.๒ สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ เกียรติคุณ และมีอุปการคุณแก่สมาคมฯ หรือโรงเรียน หรือผู้ที่คณะกรรมการบริหาร มีมติเป็นเอกฉันท์เชิญเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ เมื่อผู้รับเชิญตอบยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว ก็มีสภาพเป็นสมาชิกกิตติศักดิ์โดยสมบูรณ์ ข้อ ๗ สมาชิกสามัญราย ๓ ปี ต้องประกอบด้วยคุณลักษณะดังนี้
๗.๑ บรรลุนิติภาวะโดยไม่จำกัด เพศ ชาติ ศาสนา
๗.๒ มีความประพฤติเรียบร้อย
๗.๓ เป็นหรือเคยเป็นผู้ปกครอง,เป็นบิดา หรือมารดา ของนักเรียน หรือนักเรียนเก่า
๗.๔ เป็นหรือเคยเป็น ครู-อาจารย์ และบุคลากรของโรงเรียน
ข้อ ๘ การเข้าเป็นสมาชิกสามัญราย ๓ ปีนั้น ผู้ประสงค์จะต้องยื่นใบสมัครตามแบบฟอร์มของสมาคมฯต่อนายทะเบียนสมาคมฯ
๘.๑ สมาชิกภาพจะสมบูรณ์ต่อเมื่อได้ชำระค่าลงทะเบียนและค่าบำรุงสมาคมฯ ต่อเหรัญญิก และคณะกรรมการบริหาร ลงมติรับรองความเป็นสมาชิก
๘.๒ ครู-อาจารย์ที่รับราชการอยู่ในโรงเรียน และบุคลากรของโรงเรียน เป็นสมาชิกสามัญโดยไม่ต้องเสียค่าลงทะเบียนและค่าบำรุงสมาคมฯ เว้นแต่จะแสดงเจตนาเป็นอย่างอื่น ข้อ ๙ ค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงสมาคมฯ
๙.๑ สมาชิกสามัญราย ๓ ปี เสียค่าลงทะเบียน เป็นเงิน ๕๐๐.๐๐ บาท ทุกๆ ๓ ปี
๙.๒ สมาชิกสามัญราย ๓ ปี เสียค่าบำรุงสมาคมฯ ปีละ ๕๐๐.๐๐ บาท ชำระปีละ ๒ ครั้ง ๆ ละ ๒๕๐.๐๐ บาท
๙.๓ สมาชิกกิตติมศักดิ์ไม่ต้องเสียค่าลงทะเบียนและค่าบำรุงสมาคม ฯ
ข้อ ๑๐ สมาชิกมีหน้าที่พึงปฏิบัติตามข้อบังคับของสมาคม ฯ
ข้อ ๑๑ สมาชิกภาพจะสิ้นสุดลงตามสภาพดังต่อไปนี้
๑๑.๑ ตาย
๑๑.๒ ลาออกโดยยื่นหนังสือลาออกต่อเลขาธิการสมาคมฯ และคณะกรรมการบริหาร มีมติให้ออก
๑๑.๓ ศาลสั่งให้เป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
๑๑.๔ ฝ่าฝืนข้อบังคับสมาคมฯ หรือประพฤติตนให้เป็นที่เสื่อมเสียต่อสมาคมฯ และคณะกรรมการบริหาร มีมติให้ออกเป็นเอกฉันท์
๑๑.๕ สมาชิกสามัญตลอดชีพที่ไม่ได้มาติดต่อแจ้งความสมัครใจในการที่จะยังคงสมาชิกภาพของสมาคมฯ ต่อไปภายในปี ๒๕๔๕
๑๑.๖ สมาชิกสามัญราย ๓ ปี ขาดการต่ออายุการเป็นสมาชิกโดยไม่ชำระค่าลงทะเบียนทุก ๆ ๓ ปี และค่าบำรุง สมาคมฯ ทุก ๆ ปี ๑๑.๗ เมื่อพ้นจากสมาชิกภาพแล้ว จะเรียกร้องค่าเสียหายจากสมาคมฯ หรือคณะกรรมการบริหาร มิได้
ข้อ ๑๒ สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก
๑๒.๑ สมาชิกมีสิทธิประดับเครื่องหมายของสมาคมฯ ได้ในโอกาสอันสมควร
๑๒.๒ สมาชิกมีสิทธิได้รับประโยชน์ต่าง ๆ อันพึงได้ เนื่องจากผลงานตามวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ
๑๒.๓ สมาชิกมีสิทธิเสนอความคิดเห็นที่เกี่ยวกับการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ หรือตามความเป็นอยู่ของสมาคม ฯ และสามารถสอบถามถึงกิจกรรมของสมาคมฯ ได้ในโอกาสอันสมควร
๑๒.๔ สมาชิกสามัญไม่น้อยกว่า ๓๐ คน ย่อมมีสิทธิเสนอหนังสือลงลายมือชื่อร่วมกัน ขอให้คณะกรรมการบริหารจัดการประชุมวิสามัญเป็นกรณีพิเศษ โดยจะต้องแสดงเหตุผลให้ชัดเจน

หมวด ๓
การดำเนินการสมาคม ฯ
ข้อ ๑๓ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “ คณะกรรมการบริหาร ” ทำหน้าที่บริหารงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ของสมาคมฯ
๑๓.๑ ทุก ๆ ปีให้คณะกรรมการบริหารฯ จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีในเดือนกรกฎาคม หากมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถจัดประชุมได้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ให้เลื่อนได้ครั้งละ ๓๐ วัน โดยให้คณะกรรมการบริหาร เป็นผู้กำหนดโดยเร็ว และให้ปิดประกาศการเลื่อนนัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ไว้ที่สำนักงานของสมาคมฯ ด้วย เพื่อแถลงผลการดำเนินงานในรอบปี เสนองบดุล งบรายรับ-รายจ่าย แต่งตั้งผู้สอบบัญชีรับอนุญาตและอื่นๆ
๑๓.๒ คณะกรรมการบริหาร อยู่ในตำแหน่งคราวละ ๓ ปี เมื่อครบกำหนดแล้ว ก็คงให้มีอำนาจการบริหารงานต่อไป จนกว่าคณะกรรมการบริหาร ชุดใหม่ จะเข้ามารับมอบงานเป็นที่เรียบร้อย
๑๓.๓ คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ มีจำนวนรวมไม่เกิน ๓๕ คนประกอบด้วย
๑๓.๓.๑ กรรมการจากการเลือกโดยที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี โดยให้เลือกนายกสมาคมและ
กรรมการบริหารสมาคมฯ จำนวน ๗ คน โดยวิธีรับสมัครและเลือกตั้งแบบเป็นทีม ทีมที่ได้รับ
คะแนนเลือกสูงสุด เป็นทีมได้รับเลือกตั้งเป็นกรรมการบริหาสมาคมฯ
๑๓.๓.๒ กรรมการโดยตำแหน่ง ประกอบด้วย
(๑) ผู้อำนวยการสถานศึกษาของโรงเรียนสตรีวิทยา ๒ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี เป็นอุปนายกคนที่ ๑ โดยตำแหน่ง
(๒) คณะกรรมการบริหารโรงเรียนสตรีวิทยา ๒ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรม ราชชนนี จำนวน ๑๒ คน
(๓) ผู้แทนครูโรงเรียนสตรีวิทยา ๒ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จำนวน ๒ คน
๑๓.๓.๓ กรรมการจากการสรรหา ประกอบด้วย
(๑) ผู้ทรงคุณวุฒิที่นายกสมาคมฯ เสนอผู้ที่เห็นว่าเหมาะสม จำนวน ๓ คน
(๒) นายกสมาคมฯ โดยการปรึกษาหารือกับกรรมการบริหารสมาคมฯ สรรหาผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งจำนวน ๑๐ คน ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารงานสมาคมฯ ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ข้อ ๑๔ ให้คณะกรรมการบริหารเลือกกรรมการเพื่อทำหน้าที่ดังนี้
๑๔.๑ อุปนายก ๓ คน
๑๔.๒ เลขาธิการ ๑ คน ผู้ช่วยเลขาธิการ ๒ คน
๑๔.๓ เหรัญญิก ๑ คน ผู้ช่วยเหรัญญิก ๒ คน
๑๔.๔ นายทะเบียน ๑ คน
๑๔.๕ ปฏิคม ๑ คน
๑๔.๖ ประชาสัมพันธ์ ๑ คน
๑๔.๗ ตำแหน่งผู้ช่วยตามข้อ ๑๔.๔-๑๔.๖ หรือตำแหน่งอื่นที่คณะกรรมการบริหารเห็นสมควร
ข้อ ๑๕ หน้าที่ในการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารฯ มีดังนี้
นายก ฯ รับผิดชอบในงานทั่วไปของสมาคม ฯ เป็นประธานในการประชุม และเป็นผู้ลงนามแทนสมาคม ฯ
อุปนายก ฯ ช่วยเหลือและทำงานแทนในขณะที่นายกสมาคมฯ ไม่อยู่ หรือปฏิบัติงานตามที่นายกสมาคมฯ มอบหมาย
เลขาธิการ รับผิดชอบบังคับบัญชางานให้เป็นไปตามข้อบังคับสมาคมฯ และตามคำสั่งของนายกสมาคมฯ จัดเตรียมระเบียบวาระการประชุม จดบันทึกและเก็บรักษารายงานการประชุม ทำจดหมายโต้ตอบ โดยเฉพาะงานที่ไม่ได้มอบหมายให้กรรมการผู้ใดปฏิบัติ เลขาธิการจะต้องดำเนินการเอง
เหรัญญิก รับผิดชอบในการเงินและบัญชีการเงิน รวมทั้งจัดทำบัญชีทรัพย์สินของสมาคมฯ
นายทะเบียน รับผิดชอบในการจัดทำและรักษาทะเบียนสมาชิกให้ถูกต้องตรงความเป็นจริงอยู่เสมอ
ปฏิคม มีหน้าที่ต้อนรับ และรับผิกชอบในงานด้านสถานที่ และอำนวยการต้อนรับในระหว่างจัดกิจกรรมของสมาคมฯ
ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่จัดทำประวัติของสมาคมฯ จัดเผยแพร่วารสาร ตลอดจนประชาสัมพันธ์กิจกรรมของสมาคมฯ
กรรมการ มีหน้าที่เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารฯ เพื่อแสดงความคิดเห็น ลงมติ และช่วยเหลือกิจกรรมทั่วไปของสมาคมฯ หรือตามที่ได้รับมอบหมายเป็นกรณีพิเศษจากคณะกรรมการบริหารฯ
ข้อ ๑๖ ถ้าตำแหน่งนายก หรือกรรมการที่มาจากการเลือกตั้งและแต่งตั้งว่างลงก่อนวาระเลือกตั้ง ให้คณะกรรมการบริหารเชิญสมาชิกหรือบุคคลที่เหมาะสมเข้าดำรงตำแหน่งแทน โดยให้อยู่ในตำแหน่งเป็นระยะเวลาเท่ากับระยะเวลาที่เหลืออยู่ของผู้ดำรงตำแหน่งที่ว่างลงนั้น
ข้อ ๑๗ กรรมการอาจจะพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งมิใช่เป็นการออกตามวาระด้วยเหตุผลต่อไปนี้ คือ
๑๗.๑ ตาย
๑๗.๒ ลาออก
๑๗.๓ ขาดจากสมาชิกภาพตามข้อบังคับและตามที่กฎหมายกำหนดไว้
๑๗.๔ ที่ประชุมใหญ่ลงมติให้ออกจากตำแหน่ง
๑๗.๕ เป็นผู้มีความประพฤติและปฏิบัติตนเป็นที่เสื่อมเสียและคณะกรรมการสมาคมฯ มีมติให้ออก
ข้อ ๑๘ เพื่อประโยชน์ในการบริหารงาน และการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ คณะกรรมการบริหารฯ อาจแต่งตั้งกรรมการเฉพาะกิจ จากกรรมการที่เหลืออยู่ หรือผู้ที่คณะกรรมการบริหารเห็นว่าเหมาะสม เพื่อปฏิบัติหน้าที่นอกเหนือจากที่ได้ระบุไว้ในข้อบังคับ หรืออาจตั้งผู้เชี่ยวชาญ หรือกรรมการที่ปรึกษาได้
ข้อ ๑๙ อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ
๑๙.๑ ออกระเบียบต่างๆ เพื่อให้สมาชิกได้ปฏิบัติ โดยระเบียบปฏิบัตินั้นจะต้องไม่ขัดต่อข้อบังคับฉบับนี้
๑๙.๒ แต่งตั้งและถอดถอนเจ้าหน้าที่ของสมาคมฯ
๑๙.๓ แต่งตั้งกรรมการที่ปรึกษา หรืออนุกรรมการได้ แต่กรรมการที่ปรึกษาหรืออนุกรรมการจะสามารถอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกินวาระของคณะกรรมการที่แต่งตั้ง
๑๙.๔ เรียกประชุมใหญ่สามัญประจำปี และประชุมวิสามัญ
๑๙.๕ แต่งตั้งกรรมการในตำแหน่งอื่นๆ ที่ยังมิได้กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้
๑๙.๖ บริหารกิจการของสมาคมฯ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตลอดจนมีอำนาจอื่น ๆ ตามที่ข้อบังคับกำหนดไว้
๑๙.๗ รับผิดชอบในกิจการทั้งหมด รวมทั้งการเงินและทรัพย์สินทั้งหมดของสมาคมฯ
๑๙.๘ จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ ตามที่สมาชิกสามัญไม่น้อยกว่า ๓๐ คน ลงลายมือชื่อร่วมกันยื่นหนังสือขอให้คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ พิจารณาจัดประชุมใหญ่วิสามัญเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งการนี้จะต้องจัดให้มีการประชุมวิสามัญขึ้นภายใน ๓๐ วัน หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ เห็นชอบตามหนังสือร้องขอ
๑๙.๙ จัดทำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ทั้งที่เกี่ยวกับการเงิน ทรัพย์สินและการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของสมาคมฯให้ ถูกต้องตามหลักวิชาการและสามารถจะให้สมาชิกตรวจดูได้เมื่อ สมาชิกร้องขอ ๑๙.๑๐ จัดทำบันทึกการประชุมต่าง ๆ ของสมาคมฯ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานและจัดส่งให้สมาชิก ได้รับทราบ
๑๙.๑๑ มีหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ข้อบังคับกำหนดไว้

หมวด ๔
การประชุม
ข้อ ๒๐ ให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหาร ปีละไม่น้อยกว่า ๖ ครั้งในรอบปี ระหว่างปิดภาคเรียนของโรงเรียนให้งดการ
ประชุม นอกจากมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ให้จัดประชุมได้ โดยเลขาธิการจะต้องนัดประชุมล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๗ วัน
ข้อ ๒๑ ในการประชุมใหญ่สามัญ องค์ประชุมจะต้องไม่น้อยกว่า ๕๐ คน ส่วนการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์ประชุม
จะต้องไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ของกรรมการทั้งหมด
ข้อ ๒๒ สำหรับการประชุมใหญ่นั้น ให้เลขาธิการนัดหมายสมาชิกล่วงหน้า ไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน และติดประกาศไว้ที่สำนักงาน
สมาคมฯ ด้วย ถ้าการประชุมจากการนัดหมายครั้งแรกมีสมาชิกเข้าร่วมประชุมไม่ครบองค์ประชุม ให้เลขาธิการนัดหมายการประชุมใหญ่อีกครั้ง โดยเว้นระยะห่างจากครั้งแรกไม่น้อยกว่า ๑๔ วัน และให้ถือว่าการประชุมครั้งหลังนี้ครบองค์ประชุม ไม่ว่าจะมีสมาชิกเข้าร่วมประชุมจำนวนเท่าใดก็ตาม

หมวด ๕
การเงินและทรัพย์สิน
ข้อ ๒๓ เหรัญญิกต้องนำเงินของสมาคมฯ ฝากไว้ที่ธนาคารในนามของสมาคมฯ ในวันที่รับเงินจำนวนนั้น หากเป็นวันหยุด
ทำการของธนาคาร ให้นำฝากในวันถัดไปที่ธนาคารเปิดทำการ โดยเหรัญญิกเก็บรักษาเงินไว้ใช้จ่ายในกิจการของสมาคมฯ ได้ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐.๐๐ บาท
ข้อ ๒๔ การถอนเงินของสมาคมฯ จากธนาคาร ต้องมีลายมือชื่อของนายก หรืออุปนายก ฝ่ายหนึ่ง ร่วมกับ เหรัญญิก หรือ
ผู้ช่วยเหรัญญิก อีกฝ่ายหนึ่ง ร่วมกันทุกครั้ง
ข้อ ๒๕ นายก หรืออุปนายก มีอำนาจสั่งจ่ายเงินได้ ครั้งละไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท

หมวด ๖
การเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับและการเลิกสมาคมฯ
ข้อ ๒๖ การแก้ไขข้อบังคับของสมาคมฯ นั้น ทำได้ตามมติของที่ประชุมใหญ่สามัญ ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า ๒ ใน ๓ ของ
สมาชิกที่เข้าประชุม
ข้อ ๒๗ เมื่อสมาคมฯเลิกกิจการ หากมีทรัพย์สินเหลืออยู่เท่าใด ให้มอบให้โรงเรียนสตรีวิทยา ๒ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระ
ศรีนครินทราบรมราชชนนี

หมวด ๗
บทเบ็ดเตล็ด
ข้อ ๒๘ การตีความในข้อบังคับสมาคม หากเป็นที่สงสัยให้ที่ประชุมใหญ่โดยเสียงข้างมากของที่ประชุมชี้ขาด
ข้อ ๒๙ ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยสมาคมฯ มาใช้บังคับ ในเมื่อข้อบังคับของสมาคมฯ
มิได้กำหนดไว้ และหากมีข้อบังคับใดขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ก็ให้ถือปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ข้อ ๓๐ สมาคมฯ ต้องไม่ดำเนินการหาผลประโยชน์มาแบ่งปัน หรือเพื่อบุคคลใดนอกจากเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์
ของสมาคมฯ เอง

หมวด ๘
บทเฉพาะกาล
ข้อ ๓๑ ข้อบังคับนี้ให้เรียกว่า “ข้อบังคับสมาคมผู้ปกครองและครูสตรีวิทยา ๒”
ข้อ ๓๒ ข้อบังคับฉบับนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่พนักงานเจ้าหน้าที่รับจดทะเบียน เป็นต้นไป
ข้อ ๓๓ เมื่อข้อบังคับนี้ได้ใช้บังคับแล้ว ให้ยกเลิกข้อบังคับสมาคมผู้ปกครองและครูสตรีวิทยา ๒ ฉบับพุทธศักราช ๒๕๔๕
และข้อบังคับฉบับแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคมฯ ตามมาตรา ๘๔ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๙

(หมายเหตุ : ข้อบังคับสมาคมฯ ฉบับนี้ ได้รับการจดทะบียนเปลี่ยนแปลงเมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๖ ห้ามบุคคลใดปรับเปลี่ยนข้อความ และรายละเอียด รวมถึงความหมายในระเบียบข้อบังคับสมาคมฯ โดยเด็ดขาด ยกเว้นได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่สามัญของสมาคมฯ)